[2] ความเป็นมาของ TrialBike

กีฬาชนิดนี้กำเนิดขึ้นโดย คุณ Ot Pi Isern ที่พัฒนามาจาการขับขี่โมโตครอส ชนิด ไทร์อัล ในประเทศเสปน 
เนื่องจากคุณพ่อของเขา คือคุณ Peter Pi  ที่เป็นแชมป์โลกในการขี่จักรยานยนต์ผาดโผน Trial
จึงให้ลูกชายคือคุณ Ot pi ฝึกจากการขี่จักรยานเพื่อพัฒนาสู่การขี่มอเตอร์ไซค์ เพื่อเรียนรู้เทคนิคพื้นฐาน
การกระโดดขึ้น ลง การทรงตัว การใช้เบรก บนอุปสรรค์ต่างๆ
การขี่แบบ Trial ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และแพร่หลายในกลุ่มเพื่อนฝูงของเขา ซึ่งริเริ่มจัดสร้างอุปสรรค์ใหม่ๆ มาให้ท้าประลองฝีมือ เทคนิค ท่าทางพิสดารก็ได้ถูกพัฒนาตามกันไป จากเดิม อุปสรรค์เกิดจากการเข้าไปขี่ตามพื้นที่ธรรมชาติ เช่น ก้อนหิน ขอนไม้
เมื่อแพร่หลายมากขึ้น ด่าน อุปสรรค์ต่างๆได้ถูกดัดแปลงมาสู่เมือง การนำเอา รถยนต์เก่า ลังไม้พัสดุ ราวเหล็ก วัสดุต่างพื้นผิวย่อมส่งผลต่อการทรงตัว 




เมื่อออกสู่สายตาสาธารณะชน ผู้คนสนใจมากขึ้น เริ่มบรรจุในกีฬา European Sport
จัดทำตั้งกฎอย่างจริงจัง การกำหนดค่าคะแนนขึ้นอยู่กับความยากของการเลือกอุปสรรค์ หรือจะเป็น ลีลาท่าทาง
เทคนิคการ Tracking Stand คือการหยุดนิ่งบนพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง โดยห้ามมิให้เท้าสัมผัสพื้น
ผลที่ตามมาก็คือแบรนด์ต่างๆ เริ่มมีการผลิตรถจักรยาน Trial ออกมาสู่ท้องตลาดมากมาย
ส่วนประกอบสำคัญของจักรยานก็คือ เบรกที่หนึบที่สุด แต่ส่วนใหญ่นักแข่งจะเลือกใช้วีเบรกกัน เนื่องจากมีน้ำหนักเบา
และเบรกมีผลต่อการบังคับรถเป็นอย่างมากเพราะต้องใช้ในการหยุดความเร็วเพื่อให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นผิวของอุปสรรค์ให้มากที่สุด และเพื่อการทรงตัวบนสิ่งกีดขวาง Handle Bar ที่กว้างเพื่อการควบคุมล้อหน้า และการดึงรถข้ามอุปสรรค์ เกียร์เป็นเกียร์ Single Speed เพื่อแรงกระชาก ถ้าใส่ตีนผีแรงกระชากจะถูกลดลงจาสปริง และแรงเหวี่ยงของเจ้าตีนผี เกียร์ที่เลือกใช้ส่วนใหญ่เป็นเกียร์ต่ำ Low Gearing แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ และรอบขา กำลังขาของแต่ล่ะบุคคล จักรยานประเภทนี้จะไม่มีเบาะเนื่องจากลดส่วนที่กีดขวางการทรงตัว เลยทำให้รูปทรงจักรยานดูเป็นเอกลักษณ์ และแปลกตา 

No comments:

Post a Comment